Probi Inc. ผู้ผลิต ผลิตภัณฑ์เอิร์ธเพิร์ล (Earth’s Pearl) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญของโลกด้านการวิจัยและพัฒนาโพรไบโอติก ได้วิจัยแล้วพบว่า “จุลินทรีย์ทั้ง 5 สายพันธุ์นี้” สามารถช่วยปรับสมดุลและแก้อาการที่มักพบในระบบทางเดินอาหารและระบบขับถ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ประกอบไปด้วย

• Lactobacillus acidophilus ช่วยฆ่าเชื้อก่อโรค ลดโอกาสการติดเชื้อในช่องคลอด ป้องกันอาการท้องเสีย
• Lactobacillus plantarum ลดการอักเสบ กระตุ้นภูมิคุ้มกัน
• Lactobacillus reuteri กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ลดอาการภูมิแพ้
• Bifidobacterium infantis ช่วยการทำงานระบบทางเดินอาหาร ลดอาการ IBS
• Bifidobacterium lactis ลดอาการติดเชื้อ และการอักเสบ ช่วยการทำงานระบบทางเดินอาหาร

ปกติในร่างกายเราหลักๆจะมีโพรไบโอติก 2 กลุ่มที่สำคัญคือ กลุ่มแลคโตบาซิลลัส ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในระบบย่อยอาหาร ระบบทางเดินปัสสาวะ และอวัยวะเพศ มีมากกว่า 50 สายพันธุ์ และกลุ่มบิฟิโดแบคทีเรียเป็นจุลินทรีย์ที่อยู่อาศัยในบริเวณลำไส้ใหญ่ มีอยู่ประมาณ 30 สายพันธุ์ ยิ่งเพิ่มสายพันธุ์มากเท่าไหร่ จำนวนแต่ละสายพันธุ์ก็จะยิ่งน้อยลง และยังไม่มีการวิจัยที่แพร่หลายในการใช้ระยะยาว ดังนั้นเราจึงเลือกสายพันธุ์ที่มีความจำเป็น มีประโยชน์ มีการวิจัยมากที่สุด และมีเอกสารรับรองแต่ละสายพันธุ์ว่าดีที่สุดมาใช้ เพื่อให้แน่ใจว่าจะได้รับสิ่งที่สำคัญที่สุดในปริมาณที่สูงที่สุด

ตามข้อกำหนดองค์การอาหารและยา ผลิตภัณฑ์โพรไบโอติกจะต้องมีจำนวนจุลินทรีย์มีชีวิตคงเหลืออยู่ในผลิตภัณฑ์ไม่น้อยกว่า 106 CFU ต่อปริมาณ 1 กรัม ตลอดอายุการเก็บรักษา

อย่างไรก็ตาม แม้จำนวนจุลินทรีย์จะมีมากเพียงใดในผลิตภัณฑ์ แต่ก็ไม่สำคัญเท่ากับ “จำนวนจุลินทีย์ที่เหลือรอด” ไปในลำไส้

ผลิตภัณฑ์เอิร์ธเพิร์ล (Earth’s Pearl) จึงได้นำเทคโนโลยีล่าสุด Bio Tract

มาใช้ในสินค้าของเรา ด้วยระบบรักษาจุลินทรีย์ให้ไปแตกตัวที่ลำไส้ จึงทำให้จุลินทรีย์ไม่ถูกทำลายตั้งแต่อยู่ในเม็ด และสามารถผ่านน้ำย่อยและกรดในกระเพาะ เพื่อให้โพรไบโอติก probiotics ที่มีชีวิตเข้าสู่ลำไส้และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

• ผลิตภัณฑ์เอิร์ธเพิร์ล มีการคัดสรรเฉพาะ “ชนิดของจุลินทรีย์ 5 สายพันธุ์” สำหรับปัญหาทางเดินอาหารโดยตรง และมีปริมาณที่วิจัยมาแล้วว่าเหมาะสมกับร่างกายที่สุด
• ทุกเม็ดของ ผลิตภัณฑ์เอิร์ธเพิร์ล มีเทคโนโลยีนำส่ง (Bio Tract) ปลดปล่อยจุลินทรีย์ที่ลำไส้ ทำให้จุลินทรีย์ไม่ถูกทำลายระหว่างทาง
• ผลิตภัณฑ์เอิร์ธเพิร์ล อยู่ในรูปแบบเม็ดทรงกลม ง่ายต่อทั้งการกิน และการเก็บรักษา ไม่จำเป็นต้องเก็บในตู้เย็น สามารถพกพาติดตัวไปกินที่ไหนก็ได้โดยไม่ทำให้จุลินทรีย์เสื่อมสลาย
• ผลิตภัณฑ์เอิร์ธเพิร์ล ไม่มีส่วนผสมของนม กลูเตน แป้ง ถั่วเหลือง น้ำตาล สารเคมี หรือสารปรุงแต่งกลิ่นรสต่างๆ ผู้มีโรคประจำตัวหรือแพ้สารเหล่านี้สามารถรับประทานได้

• ผลิตภัณฑ์เอิร์ธเพิร์ล มีการการันตีปริมาณจุลินทรีย์ที่ยังมีชีวิตจนถึงวันหมดอายุ เพื่อยืนยันว่าเชื้อสามารถมีชีวิตอยู่ได้จนถึงวันที่หมดอายุระบุบนหน้ากล่อง (Guarantee Living Flora)
• ผลิตภัณฑ์เอิร์ธเพิร์ล ประกอบด้วยทั้งโพรไบโอติก และ พรีไบโอติก (สูตรซินไบโอติก) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของจุลินทรีย์ในร่างกายให้สูงสุด
• ผลิตภัณฑ์เอิร์ธเพิร์ล มีเทคโนโลยีระบบนำส่ง (Bio Tract) ที่สามารถแตกตัวปล่อยจุลินทรีย์ที่ลำไส้ ทำให้จุลินทรีย์ไม่ถูกทำลายในน้ำย่อย และกรดในกระเพาะอาหาร
• ผลิตภัณฑ์เอิร์ธเพิร์ล มาในรูปแบบเม็ดเล็ก ง่ายต่อทั้งการกิน และการเก็บ ไม่จำเป็นต้องละลายน้ำ หรือทนต่อรสชาด สามารถพกพาติดตัวไปกินที่ไหนก็ได้โดยไม่ทำให้จุลินทรีย์เสื่อมสลาย

ได้เหมือนกัน แต่ชนิดหรือสายพันธุ์ของโพรไบโอติกจะไม่หลากหลาย และจำนวนเชื้อที่สามารถผ่านกระเพาะอาหารเพื่อไปถึงลำไส้จะมีเหลือจำนวนน้อยจากการถูกทำลายระหว่างทางเดินอาหาร รวมทั้งในโยเกิร์ตมีน้ำตาลและแคลอรี่แถมมาด้วย จึงไม่เหมาะกับบุคคลหลายๆกลุ่มเช่น เป็นเบาหวาน หรือควบคุมแคลอรี่

ปกติแล้วจุลินทรีย์จะทำงานดีที่สุดในตอนเช้าหลังตื่นนอน ดังนั้นช่วงเวลา “ก่อนหรือหลังอาหารเช้า” จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการรับประทาน

การรับประทานโพรไบโอติกในช่วงเวลาเดียวกันของทุกวัน จะช่วยปรับสมดุลการทำงานของลำไส้อย่างสม่ำเสมอในแต่ละวันได้ด้วย

• เนื่องจากโพรไบโอติก (Probiotics) ที่อยู่ใน ผลิตภัณฑ์เอิร์ธเพิร์ล เป็นจุลินทรีย์ “ชนิดดี” ที่มีอยู่ในลำไส้ของมนุษย์ที่สุขภาพสมบูรณ์อยู่แล้ว ดังนั้นจึงสามารถรับประทานร่วมกับอาหาร หรือยา ตลอดจนอาหารเสริมอื่นๆได้โดยไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆของสิ่งที่รับประทานร่วมด้วย
• ผลิตภัณฑ์เอิร์ธเพิร์ล มีความปลอดภัยสูงมาก ปราศจากสารปรุงแต่งอย่าง น้ำตาล หรือสารก่อภูมิแพ้อย่าง นม ไข่ ถั่ว และได้รับตรารับรอง Non-GMO อีกด้วย จึงไม่ทำปฏิกิริยากับยา วิตามิน หรืออาหารเสริมตัวอื่นเมื่อรับประทานร่วมกัน
• อย่างไรก็ตาม หากท่านมีโรคประจำตัวเราแนะนำให้ท่านปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนที่จะรับประทานอีกครั้ง

เราสามารถรับประทาน ผลิตภัณฑ์เอิร์ธเพิร์ล (Earth’s Pearl) ติดต่อกันยาวนานได้ตลอดชีวิต เนื่องจากจุลินทรีย์ตัวดีทั้ง 5 สายพันธุ์นี้จะค่อยๆสร้างสมดุลให้กับลำไส้ ตลอดจนระบบต่างๆในร่างกายทำงานให้ดีมากขึ้นตามลำดับ

อีกทั้งมีงานวิจัยที่สนับสนุนว่า การบริโภคโพรไบโอติก นั้นควรรับประทานให้ติดเป็นนิสัยเพราะจะก่อผลดีต่อร่างกายมากกว่าการกินวิตามินสังเคราะห์หลายๆตัว

“ทุกคน” สามารถรับประทานโพรไบโอติกเสริมได้ เนื่องจากปัจจุบันเรามีการปัจจัยในการ “ทำลายจุลินทรีย์ตัวดี” ที่ควรเป็นเกราะคุ้มกันให้ร่างกายไปทุกวันอย่างเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยาปฏิชีวนะบ่อยครั้ง หรือพฤติกรรมการดำเนินชีวิตที่ไม่ดีต่อสุขภาพต่างๆ  เราจึงควรเสริมโพรไบโอติกเพื่อรักษาสมดุลของจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ เพื่อให้ร่างกายที่มีจุลินทรีย์ในการต่อสู้กับปัญหาสุขภาพที่อาจจะตามมาอยู่เสมอ

ในส่วนผู้ที่จำเป็นต้องรับประทานโพรไบโอติกอย่างจริงจัง คือผู้ที่มีปัญหาทางเดินอาหารอย่างชัดเจน อาทิ ลำไส้แปรปรวน ปัญหาการขับถ่าย อาหารไม่ย่อย ท้องอืด เรอหลังมื้ออาหาร ตลอดจนกรดไหลย้อน ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นอาการเตือนถึงความไม่สมดุลของทางเดินอาหารจึงจำเป็นต้องเสริมจุลินทรีย์ตัวดีเข้าไป

จากคำยืนยันของผู้ใช้จริงจาก Amazon มากกว่า 5,000 รีวิวที่ทำพบว่า ผลิตภัณฑ์เอิร์ธเพิร์ล ให้ผลเด่นชัดในการรักษาอาการดังต่อไปนี้ ลำไส้แปรปรวน  กรดไหลย้อน ท้องอืด ท้องผูก และเสริมภูมิคุ้มกัน ตามลำดับ

เด็กสามารถรับประทาน Probiotic เพื่อเสริมจุลินทรีย์ตัวดีให้ร่างกายได้เช่นเดียวกับผู้ใหญ่ แต่เนื่องจากผลิตภัณฑ์เอิร์ธเพิร์ล ออกแบบมาเพื่อเป็นระบบนำส่งไปที่ลำไส้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ไม่สามารถแบ่งเม็ดยาได้ ดังนั้นเด็กที่สามารถรับประทาน ผลิตภัณฑ์เอิร์ธเพิร์ล ได้คือเด็กวัย 8 ปีขึ้นไปที่โตพอจะกลืน Earth’s Pearl ได้ทั้งเม็ดโดยไม่ต้องแบ่งเม็ดยา และทางบริษัทกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์เอิร์ธเพิร์ลในรูปแบบสำหรับเด็กในเร็วๆนี้

การใช้ยาปฏิชีวนะจะฆ่าแบคทีเรียทั้งหมดในร่างกายทั้งตัวที่ดีและไม่ดี โพรไบโอติกเป็นแบคทีเรียที่ดีที่พบในระบบทางเดินอาหารก็โดนยาทำลายไปด้วย จึงทำให้ร่างกายสูญเสียสมดุลแบคทีเรีย อาจก่อปัญหาสุขภาพอื่นๆตามมา

ผลิตภัณฑ์เอิร์ธเพิร์ล จะช่วยเติมจุลินทรีย์ชนิดดีที่โดนทำลายไปจากการรับประทานยาปฏิชีวนะ ทำให้ร่างกายมีสมดุละหว่างแบคทีเรียที่ดีและแบคทีเรียที่ไม่ดีในร่างกาย

เนื่องจากร่างกายทุกคนแตกต่างกัน จำนวนเชื้อแบคทีเรียทั้ง “ชนิดที่ดี” และ “ชนิดไม่ดี” ในร่างกายแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน จึงทำให้ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไป

อย่างไรก็ตามหลายผู้ใช้จำนวนมากได้รายงานถึงการเปลี่ยนแปลงหลังรับประทานประมาณ 1-2 สัปดาห์

มีเพียงส่วนน้อยที่อาจมีอาการท้องอืด หรือมีแก๊สในทางเดินอาหารเล็กน้อยเมื่อรับประทานเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นตอบสนองตามธรรมชาติกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงในระบบย่อยอาหาร และอาการจะหายไปภายในช่วงเวลาสั้นๆ จึงไม่ต้องกังวล

หากผลกระทบนี้มีระยะเวลานานกว่าสองสัปดาห์ เราขอแนะนำให้หยุดใช้และปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ

โดยปกติแล้ว สามารถรับประทานได้ เนื่องจากผลิตภัณฑ์เอิร์ธเพิร์ล มีความปลอดภัยสูงต่อมนุษย์

อย่างไรก็ตามเช่นเดียวกับอาหารเสริมทั้งหมด เราขอแนะนำให้สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์ก่อนใช้

มีเพียงส่วนน้อยที่อาจมีอาการท้องอืด หรือมีแก๊สในทางเดินอาหารเล็กน้อยเมื่อรับประทานเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นตอบสนองตามธรรมชาติกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงในระบบย่อยอาหาร และอาการจะหายไปภายในช่วงเวลาสั้นๆ จึงไม่ต้องกังวล

หากผลกระทบนี้มีระยะเวลานานกว่าสองสัปดาห์ เราขอแนะนำให้หยุดใช้และปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ

โดยปกติแล้ว สามารถรับประทานได้ เนื่องจากผลิตภัณฑ์เอิร์ธเพิร์ล มีความปลอดภัยสูงต่อมนุษย์

อย่างไรก็ตามเช่นเดียวกับอาหารเสริมทั้งหมด เราขอแนะนำให้สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์ก่อนใช้

จากขั้นตอนการผลิตจนได้รับสิทธิบัตรของ LiveBac ทำให้มั่นใจได้ว่าแบคทีเรียยังมีชีวิตอยู่ได้ถึง 24 เดือนหลังจากวันที่ผลิตแม้วางอยู่ในอุณหภูมิภายนอกปกติ แต่หากเก็บที่เย็นจะช่วยยืดอายุของจุลินทรีย์ได้นานยิ่งขึ้น

ผลิตภัณฑ์เอิร์ธเพิร์ล ได้รับการออกแบบมาในแบบเม็ดทรงกลม (Sphere Shape) รูปแบบใหม่ เพื่อช่วยให้กลืนได้ง่ายกว่าเม็ดรูปแบบอื่นๆ

มีการพบผู้ใช้จำนวนน้อยมาก รายงานถึงปัญหาในการกลืน Earth’s Pearl ในครั้งแรก แต่เมื่อได้ลองการกลืนไปพร้อมกับอาหาร ก็สามารถปรับตัวและกลืนได้ง่ายขึ้นภายในไม่กี่ครั้งต่อมา

Earth’s Pearl มีอายุการเก็บรักษาตั้งแต่ผลิต 24 เดือน ควรเก็บในที่แห้งและเย็น ควรหลีกเลี่ยงความร้อนและความชื้น เพื่อช่วยยืดอายุแบคทีเรียมีชีวิตในแต่ละเม็ดให้ได้นานยิ่งขึ้น

• เป็นอาหารชนิดหนึ่ง เป็นสิ่งไม่มีชีวิต ซึ่งร่างกายไม่สามารถย่อยและดูดซึมได้ที่ลำไส้เล็ก อาหารเหล่านี้จึงสามารถเข้าสู่ลำไส้ใหญ่ได้ในรูปไม่เปลี่ยนแปลง และจะถูกย่อยสลายโดยแบคทีเรียโพรไบโอติก ทำให้กระตุ้นการเจริญเติบโตและการทำงานของแบคทีเรียในลำไส้ พบได้ในหัวหอม กระเทียม ถั่วเหลือง ถั่วแดง ไฟเบอร์ในผักและผลไม้ต่าง ๆ เป็นต้น
• พรีไบโอติกเป็นอาหารของโพรไบโอติก ดังนั้นหากรับประทานอาหารพวกพรีไบโอติกก็จะช่วยส่งเสริมฤทธิ์โพรไบโอติกได้ดียิ่งขึ้น

• ในเอิร์ธเพิร์ลมี Fructo Oligosaccharide (FOS) เป็นพรีไบโอติกซึ่ง FOS เป็นคาร์โบไฮเดรตที่เป็นอาหารของโพรไบโอติก พบได้ในพืชบางชนิด เช่น มะเขือเทศ ไฟเบอร์จากแอปเปิ้ล หัวบุก ข้าวโอ้ต อาร์ติโชค หัวหอมใหญ่ ชิโครี่
• นอกจาก FOS จะเป็นอาหารของโพรไบโอติกแล้ว ตัวมันเองยังมีคุณสมบัติชะลอการดูดซึมน้ำตาลจากทางเดินอาหาร ช่วยป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน หัวใจ หลอดเลือด และโรคอ้วน
• FOS ยังมีรายงานว่าช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานของระบบต่างๆในร่างกายเช่น ระบบขับถ่าย ชะลอความแก่ ระบบภูมิคุ้มกัน

• เป็นเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และได้รับการจดสิทธิบัตรในการเป็นระบบนำส่งโพรไบโอติกเพื่อไปปลดปล่อยยังที่หมายคือในลำไส้
• เนื่องจากโพรไบโอติกเป็นแบคทีเรียที่มีชีวิต และเพื่อให้โพรไบโอติกเกิดประโยชน์ แบคทีเรียเหล่านี้จำเป็นต้องไปถึงลำไส้และทำงานได้ ซึ่งโพรไบโอติกมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ชนิดสายพันธุ์และความแข็งแรง โพรไบโอติกบางชนิดมีความไวมากกว่าสารอื่น ๆ และไม่สามารถอยู่รอดได้เนื่องจากกระเพาะอาหารมีความเป็นกรดสูงมาก และไปไม่ถึงลำไส้ โพรไบโอติกที่อ่อนไหวเหล่านี้จึงจำเป็นต้องได้รับการปกป้องก่อนไปถึงลำไส้

ขึ้นอยู่กับว่ารูปแบบไหนสามารถเหลือจำนวนโพรไบโอติกที่มีชีวิตไปถึงลำไส้เพื่อทำหน้าที่ได้มากกว่ากัน ซึ่งการจะทำให้โพรไบโอติกสามารถมีชีวิตไปถึงลำไส้ได้ต้องอาศัยเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพในการปกป้องแบคทีเรียจากกรดในกระเพาะได้ดี

ผลิตภัณฑ์เอิร์ธเพิร์ล มีเทคโนโลยี Bio Tract ที่ช่วยปลดปล่อยจุลินทรีย์ในลำไส้เล็กและใหญ่โดยตรง จึงไม่ถูกทำลายโดยกรดในกระเพาะอาหาร