25 มิถุนายน พ.ศ. 2562
โดย จูเลีย คอรร์ลิสส์
บรรณาธิการบริหาร Harvard Heart Letter
โพรไบโอติกส์ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่มีประโยชน์ที่สามารถพบได้ในโยเกิร์ตและอาหารหมักชนิดอื่นๆ ได้รับการขนานนามมานานแล้วว่ามีความสามารถในการบรรเทาอาการของโรคระบบทางเดินอาหาร และการรับประทานโพรไบโอติกส์สามารถช่วยบรรเทาอาการท้องผูกในผู้ป่วยบางราย
ร้านขายยาและซูเปอร์มาร์เก็ตมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโพรไบโอติกส์ชนิดต่างๆให้เลือกมากมาย โดยแบคทีเรียที่ใช้กันมากที่สุดในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเหล่านี้คือ แลคโตบาซิลลัส และบิฟิโดแบคทีเรีย
หลักฐานที่ชัดเจนที่สุดเกี่ยวกับประโยชน์ของโพรไบโอติกส์ก็คือการรักษาอาการท้องร่วงที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือจากการใช้ยาปฏิชีวนะ เนื่องจากทั้งการติดเชื้อและยาปฏิชีวนะจะไปรบกวนสมดุลตามธรรมชาติของแบคทีเรียในระบบย่อยอาหาร ซึ่งโพรไบโอติกส์สามารถช่วยฟื้นฟูสมดุลนี้ได้ แต่ปัญหาที่ตรงกันข้ามที่พบได้บ่อยกว่าอาการท้องร่วงก็คืออาการท้องผูก โดยอาการท้องผูกส่งมีผลกระทบต่อผู้ใหญ่ประมาณ 14% และในแต่ละปี ประชากรในสหรัฐอเมริกาเข้ารับการรักษาพยาบาลอันเนื่องจากอาการท้องผูกถึงประมาณ 3.2 ล้านครั้ง และในแต่ละปีชาวอเมริกันต้องเสียค่าใช้จ่ายเกือบ 750 ล้านดอลลาร์เพื่อรักษาอาการนี้
แต่วิธีการที่ใช้กันมากที่สุดในการรักษาอาการท้องผูกโดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์ เช่น การใช้ยาระบายและยาที่ทำให้อุจจาระนิ่ม นั้นไม่ได้มีประสิทธิภาพมากนัก โดยผู้ใช้เกือบครึ่งไม่พอใจกับผลลัพธ์ของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว และกล่าวว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่มีประสิทธิภาพหรือยังก่อให้เกิดปัญหาอื่น ๆ
โพรไบโอติกส์ช่วยบรรเทาอาการท้องผูกได้หรือไม่? นักวิจัยจาก King’s College ในลอนดอนได้ค้นหาบทความทางการแพทย์ และพบว่ามีงานวิจัย 14 ฉบับ ที่ตรงตามเกณฑ์สำหรับการศึกษาที่ดี งานวิจัยทั้งหมดนี้เป็นการทดลองทางคลินิกที่มีการสุ่มให้ผู้ที่มีอาการท้องผูกได้รับโพรไบโอติกส์หรือยาหลอก (หรือการรักษาแบบควบคุมอื่นๆ )
นักวิจัยพบว่าโดยเฉลี่ยแล้วโพรไบโอติกส์สามารถชะลอ “ระยะเวลาที่อาหารผ่านลำไส้” ได้ 12.4 ชั่วโมง เพิ่มจำนวนการขับถ่ายอุจจาระได้สัปดาห์ละ 1.3 ครั้ง และช่วยให้อุจจาระนิ่มลงทำให้ขับถ่ายง่ายขึ้น และดูเหมือนว่าผลิตภัณฑ์โพรไบโอติกส์ที่มีจุลินทรีย์บิฟิโดแบคทีเรียจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยการศึกษานี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร American Journal of Clinical Nutrition
ดร. อัลลัน วอล์คเกอร์ผู้อำนวยการกองโภชนาการของโรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ด และผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงระดับโลกในด้านโพรไบโอติกส์ กล่าวว่าเนื่องจากการศึกษาขนาดเล็กแต่ละชิ้นในรายงานฉบับใหม่มีแบบแผนการวิจัยที่แตกต่างกันและมีผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ทำให้ยากที่จะกำหนดคำแนะนำที่เฉพาะเจาะจง
“โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าโพรไบโอติกส์อาจมีประโยชน์อย่างมากในการจัดการกับอาการท้องผูกและปัญหาสุขภาพอื่นๆ ในอนาคต” ดร. อัลลัน กล่าว ดร. อัลลัน เห็นด้วยกับข้อสรุปของการศึกษา ที่ว่า สิ่งที่จำเป็นคือการทดลองแบบหลายศูนย์ขนาดใหญ่ที่มีผลลัพธ์ที่เป็นมาตรฐาน เพื่อพิจารณาว่าโพรไบโอติกส์ชนิดใดและสายพันธุ์ใดมีประสิทธิภาพมากที่สุด และจะต้องรับประทานในปริมาณและเป็นเวลาเท่าใด
จนกว่าเราจะทราบข้อมูลดังกล่าว การทดลองใช้โพรไบโอติกส์ด้วยตัวคุณเองเพื่อบรรเทาอาการท้องผูกอาจเป็นทางออกที่ปลอดภัย เนื่องจากโพรไบโอติกส์จะไม่มีผลข้างเคียงใดๆและโดยทั่วไปถือว่าปลอดภัย แต่โปรดเลือกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเช่น โพรไบโอติกส์ที่ได้รับการทดสอบจากองค์การอาหารและยา คุณอาจต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ เช่น นักโภชนาการซึ่งคุ้นเคยกับโพรไบโอติกส์เป็นอย่างดี และโปรดแจ้งให้แพทย์ของคุณเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์โพรไบโอติกส์ที่คุณใช้เพื่อบำบัดอาการท้องผูกหรือสิ่งอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อสุขภาพของคุณ